เหตุระเบิดเกิดขึ้น ณ จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด กรุงอีสตัลบลู

ถึงแม้ว่าประเทศตุรกีจะอยู่ภาวะการเฝ้าระวังสูงสุด แต่ก็ได้มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณไกล้เคียงกับสุเหร่าสีน้ำเงิน หรือที่เรียกกันว่า บลูมอสก์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญกลางนครอีสตัลบลู ของประเทศตุรกี มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 คน เบื้องต้นยังไม่มีการยืนยันสัญชาติผู้เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีก 15 คน ซึ่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาเยียวยาบาดแผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังมีอีกหลายคนที่มีอาการสาหัส ล่าสุดได้มีการยืนยันว่ามีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันและนอร์เวย์รวมอยู่ในจำนวนผู้บาดเจ็บด้วย
ขณะที่ตำรวจได้ปิดพื้นที่เพื่อทำการสืบสวนและป้องกันเหตุโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้นอีก เบื้องต้นสาเหตุการวางระเบิดครั้งนี้ยังไม่ชัดเจนว่ากลุ่มผู้วางระเบิดต้องการอะไร แต่มีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เปิดเผยว่าอาจจะเป็นการระเบิดฆ่าตัวตาย
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ที่ไม่เปิดเผยชื่อว่าเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย ส่วนสำนักข่าวของประเทศเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างมัคคุเทศก์ที่อยู่ในจุดเกิดเหตุว่ามีนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวเกาหลีใต้บาดเจ็บเล็กน้อย ในขณะเดียวกันยังเปิดเผยว่าได้เห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เสีย่ชีวิตในที่เกิดเหตุ
ล่าสุดประธานาธิบดีของตุรกีกล่าวว่าเหตุการณ์ระเบิดฆ่าตัวตายมาจากซีเรีย ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาตุรกีต้องเผชิญกับเหตุโจมตีหลายครั้งจากกลุ่มซ้ายจัดในนครอีสตัลบูล ขณะความรุนแรงในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลกับกองกำลังแรงงานเคอร์ดิสถานหรือว่าพีเคเคก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังข้อตกลงหยุดยิงถูกละเมิด ขณะเดียวกันสิ่งที่ตุรกีต้องเจอคือการปะทะกับกลุ่มอิสลามในอิรักและซีเรียหรือว่า isis โดยเดือนตุลาคมที่ผ่านมาโดนระเบิดพลีชีพ 2 ครั้งซ้อนในระยะเวลาอันสั้นในกรุงอังการา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนกว่า 100 คน ขณะที่เดือนกรกฏาคมที่ชายแดนดุรกีที่ติดกับซีเรียทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่าอีก 30 คน ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์กลุ่มisis ได้อ้างว่าตนเองนั้นอยู่เบื้องหลังทั้งหมด
ส่วนล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศได้ยืนยันว่าจากการยืนยันของสถานทูตไทยในกรุงอังการายังไม่พบคนไทยที่ได้ผลกระทบจากเหตุระเบิดดังกล่าว
สำหรับผู้นำทั้งหลายของตุรกีหลังจากที่ทราบเหตุก็ออกมากล่าวประนามการกระทำที่เกิดขึ้นและคาดการณ์เบื้องต้นว่าการก่อเหตุนั้นน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มลัทธิศาสนาอิสลาม
ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีฝ่ายใดออกมายอมรับเป็นผู้ก่อเหตุแต่ทางนายกรัฐมนตรีของตุรกีเชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่รักอิสลามหรือ isis ส่วนทางด้านประธานาธิบดีได้แจ้งว่ามีการประณามเหตุโจมตีและยังเรียกร้องให้นานาชาตินั้นร่วมกันต่อสู้กับภัยก่อนการร้านอีกด้วย