ตำรวจบุกรวบ 4 ผู้ต้องสงสัย เหตุการณ์คาร์บอมบ์ในอิสตันบูล

 

อันที่จริงข่าวนี้มันต้องย้อนกลับไปเมื่อประมาณช่วงกลางปีของเมื่อปีที่แล้ว ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญอย่างรุนแรงต่อทั้งประชาชนชาวตุรกีและประชากรทั่วโลกที่ได้ทำการลอบวางระเบิดใส่รถบัสคันหนึ่งที่ภายในรถนั้นเป็นตำรวจปราบจลาจลซึ่งกำลังเดินทางไปยังสถานที่ที่พวกเขาวางแผนเอาไว้ เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่เขตเบยาซิท โดยต้องบอกว่าพื้นที่ดังกล่าวนี้เป็นพื้นที่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวของประเทศตุรกีเป็นย่านใจกลางเมืองที่ผู้คนพลุกพล่าน และจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 11 คน โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 7 นาย และประชาชน 4 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บก็มีสูงถึง 36 คน โดย 3 คนนั้นอาการสาหัสและค่อนข้างน่าเป็นห่วงพอสมควรเลยทีเดียว

โดยหลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศตุรกีก็ได้จัดการรวบตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายในการก่อเหตุครั้งนี้ได้ 4 คน ซึ่งผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คนนั้นได้ถูกนำตัวไปสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจในกรุงอิสตันบูล ซึ่งรายละเอียดต่างๆ นั้นก็ยังไมได้รับการเปิดเผยที่แน่ชัดว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นมันเกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่ สิ่งไหนเป็นแรงจูงใจที่ต้องการปั่นป่วนสถานการณ์ให้เป็นแบบนี้ และคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปถึง 11 ราย อย่างไรก็ตามทางด้านของนายเรเซป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีของประเทศตุรกีก็ได้ออกมาแถลงการณ์เป็นนัยว่า กลุ่มที่อยู่นอกกฎหมายพรรคคนงานเคอร์ติสถาน หรือ เคเคเค น่าจะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังในเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งนี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา กรุงอิสตันบูล ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างอันตรายต่อการโดนก่อการร้ายแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเจอ นี่มันเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 6 เดือนที่คนในเมืองนี้ต้องเจอกับเหตุการณ์อันน่าตื่นตระหนกและเหตุการณ์สะเทือนขวัญแบบนี้ โดยจากเหตุการณ์นี้เมื่อตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบก็พบว่าคนร้ายได้ทำการจุดชนวนระเบิดจากรีโมทคอนโทรล โดยตั้งใจที่จะทำการโจมตีรถบัส เมื่อรถบัสขับเข้ามาถึงจุดที่ได้วางระเบิดเอาไว้ก็จัดการจุดชนวนทันที แต่ปัญหาก็คือตอนที่จุดชนวนนั้นมันเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีผู้คนพลุกพล่านและจากแรงระเบิดดังกล่าวทำให้อาคารบ้านเรือนที่อยู่ในบริเวณนั้นเสียหายไปด้วย นอกจากนี้พยานผู้เห็นเหตุการณ์ยังได้ให้การว่าหลังจากเกิดเหตุระเบิดเสร็จก็ได้มีเสียงยิงตอบโต้กันด้วย

ต้องถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างอันตรายและเป็นที่น่าหวาดกลัวของประชาชนอย่างมาก ซึ่งทุกคนก็ได้แต่หวังว่าจะให้รีบจับคนร้ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินการทางกฎหมายให้เร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยในสวัสดิภาพของทุกๆ คน